หน้าหลัก ชีวประวัติ หนังสือและเทป ฐานิโยธรรม วัดป่าสาลวัน บูรพาจารย์เจดีย์ ลิงค์เวบศาสนา เกี่ยวกับเวบไซต์นี้
และแล้วก็ทำได้จริง ๆ
ตอนแรกข้าพเจ้าก็ไม่อยากมาเลยเมื่อรู้ข่าว ข้าพเจ้ามาเพราะแม่ให้มาและมาตามเพื่อนด้วย ตอนที่ข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าเบื่อมากตอนนั่งสมาธิ ข้าพเจ้านั่งทีไร ข้าพเจ้าจะหลับเสมอ แต่พอต่อมา วันที่ 3 ข้าพเจ้านั่ง ข้าพเจ้าก็คิดว่าอยากจะลองนั่งดูโดยไม่ให้หลับ พยายามอดทนมาก แต่ข้าพเจ้าเห็นเพื่อนหลายคนทำกันได้ รวมทั้งเพื่อนสนิทของข้าพเจ้าด้วย และข้าพเจ้าก็ทำได้จริง ๆ โดยที่ข้าพเจ้าไม่เมื่อยเลย รู้สึกสบายขึ้นเรื่อย ๆ และข้าพเจ้าก็เห็นตัวข้าพเจ้าเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ หรือถ้ำ มันเป็นสีเหมือนม่วงทึบ ๆ และข้าพเจ้าก็เห็นแสงสว่างอยู่ทางข้างหน้า ข้าพเจ้าก็เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงปากถ้ำนั้น แต่แล้วข้าพเจ้าก็รู้สึกเหมือนเป็นลมวูบลงไป แล้วพอรู้สึกตัวอีกที ข้าพเจ้าก็เห็นเพื่อนออกไปจากศาลาแล้ว ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมานั้นรู้สึกสบายมากและสงบอย่างบอกไม่ถูก จิตใจไม่ฟุ้งซ่านเลยแม้แต่น้อย ทำให้ข้าพเจ้าชอบที่นี่มาก บรรยากาศดี เงียบ จนทำให้สามารถทำสมาธิได้อย่างดีมาก
น.ร. ร.ร. มารีย์วิทยา
มาสร้างกุศลให้แม่
ในการมาเข้าค่ายปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ครั้งแรกมาเพราะใจคิดว่าจำเป็นต้องมา ทั้ง ๆ ที่วันจันทร์นี้ครั้งแรกแม่ให้ลาเรียนเพราะจะมีงานหมั้นพี่สาว เราเลยจำเป็นต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจมาที่วัดวะภูแก้วนี้ เหตุผลประการสำคัญที่สุดคือ อยากจะมาสร้างกุศลเพื่อจะยกให้แก่แม่ แม่ต้องทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาที่จะเข้าวัด โดยเฉพาะเมื่อไม่นานมานี้ แม่ไปผ่าตัดมดลูก เป็นห่วงแม่มาก จึงต้องมาปฏิบัติธรรมเพื่อกุศลทั้งหลายจะได้ไปปกป้องคุ้มครองดูแลรักษาแม่ให้ปลอดภัยจากภยันตราย ปลอดภัยจากโรคร้ายทั้งหลาย มาครั้งแรกรู้สึกว่าที่นี่ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ ยกเว้นบรรยากาศที่สดใสแต่มีความเจริญมากพอสมควร บรรยากาศก็ดี การปฏิบัติธรรมไม่มีอะไรจะลำบากเท่ากับการนั่งสมาธิเพราะเหนื่อยมาก ไม่มีอะไรลำบากเท่ากับ 2-3 วันแรก รู้สึกปวดเมื่อยมาก แรก ๆ นั่งได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็เมื่อยมาก แต่พอวันที่ 4 รู้สึกสบาย เยือกเย็นมาก ทุก ๆ คนทั้งครู วิทยากร พระสงฆ์ และเพื่อน ๆ รู้สึกจะเป็นมิตรและสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ จากการที่เราเคยร่าเริง เล่นกระเซ้าเย้าแหย่กันสนุกสนาน เสียงดัง ก็ทำให้เราสงบลง มีความรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่และปกครองตัวเองได้มากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทุก ๆ วัน คล้ายกับการมาฝึกการเป็นผู้นำ เพื่อที่จะไปใช้ในบ้าน ชอบมากคือบรรยากาศตอนเช้าและตอนเย็น เพราะอากาศเย็นสบาย ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก อาหารที่นี่ก็ดีมาก คุ้มเกินไปกับเงิน 180 บาท
นร. ร.ร. มารีย์วิทยา
จากปีติ...ถึงสมาธิ
ครั้งแรกที่ข้าพเจ้ารู้ว่าจะมาวัด ข้าพเจ้ารู้สึกเบื่อขึ้นมาทันที เพราะการมาวัดนั้นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อน่าเซ็งไม่สนุก แต่พอข้าพเจ้ามาถึงก็รู้สึกว่าสวยและอากาศดีมาก ในวันแรกที่นั่งทำสมาธิ รู้สึกเมื่อยมากไม่อยากจะทำเลย น่าเบื่อ รอจนกว่าจะหมดชั่วโมง เช้าวันที่สองนั่งทำสมาธิ แต่ก็ยังนั่งได้ไม่นิ่งเพราะเมื่อยมาก แต่พอตอนสายเริ่มทำได้แต่ก็ยังเมื่อยนิดหน่อย และเพื่อนบางคนร้องไห้ ตอนแรกรู้สึกกลัวไม่อยากทำสมาธิเลย พอเสร็จก็ลงมาบอกกับเพื่อนว่า ไม่อยากทำเพราะกลัวแต่เพื่อนบอกว่าจะกลัวทำไม มันจิตของตัวเองไม่ใช่ของใคร และพอเข้ามาก็มานั่งทำสมาธิ และหลวงพ่อท่านบอกว่าไม่ต้องไปกลัว ก็เลยตั้งใจทำต่อ และเริ่มเข้าได้โดยตอนแรกรู้สึกว่าตัวหมุนติ้วเลย หมุนจนเวียนหัวมากแล้วก็ล้มลงแล้วก็ไม่รู้สึก แต่พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกตัวเบามาก และรู้สึกสบายมากและเริ่มมีความสงบดีขึ้น
จนวันสุดท้ายรู้สึกไม่ค่อยอยากจะกลับ เพราะว่าที่นี่สวยมาก และคิดว่าถ้ามีเวลาว่างก็จะมาวัดอีกครั้งหนึ่ง
น.ร. ร.ร. มารีย์วิทยา
คงเสียใจมากถ้าไม่ได้มา
การมาอบรมธรรมะที่วัดวะภูแก้วในครั้งนี้ในครั้งแรกเมื่อทราบข่าวก็ไม่ค่อยอยากจะมา แต่เมื่อถึงวันที่จะมาจริง ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก พอมาถึงวัดแล้วรู้สึกได้เลยว่าสงบเงียบจริง ๆ ผิดกับตอนที่ได้เคยเข้าค่าย "พุทธบุตร" ที่โรงเรียนเดิมมากที่นั่นใช้โรงเรียนเป็นสถานที่ฝึก มีรถผ่านมากมายจึงไม่ค่อยสงบ ในการนั่งสมาธิที่นี่ครั้งแรกก็รู้สึกปวดเมื่อยและง่วงนอนมากเลย จนกระทั่งมาถึงค่ำวันที่ 3 (13 มิ.ย. 36) ขณะที่ทำวัตรเย็นรู้สึกว่าตัวเองเกิดความปีติ คือรู้สึกสั่นไปมาทั้งตัวทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใช้พลังอะไรบังคับให้สั่น และได้พยายามทำสมาธิในวันต่อมา ไม่รู้สึกเหมือนวันนั้นเลยคงเพราะตื่นเต้นที่จะได้กลับบ้าน ในการทำสมาธิเมื่อรู้สึกเกิดความปีติแล้ว เมื่อถอนจากสมาธิรู้สึกได้เลยว่าสบายตัว สบายใจ ทำให้หลับสบายในคืนวันนั้น ที่ค่ายนี้สอนให้รู้จักตรงต่อเวลา รับผิดชอบต่อหน้าที่ อดทน มีระเบียบวินัย คิดว่าคงจะเสียใจมากถ้าไม่ได้มาเข้าค่ายในครั้งนี้ กลับไปคิดว่าคงจะต้องนั่งสมาธิทุกคืน และจะแนะนำให้คนที่บ้านฝึกทำด้วยเพราะได้เห็นประโยชน์ของการมีสมาธิ การมีสติหลายอย่าง และมาในวันนี้ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปคือ ไม่อยากจากที่นี่ไปเพราะทำให้ได้รู้ถึงความสงบเป็นอย่างไร แตกต่างจากชีวิตในตัวจังหวัดมากที่นี่ทำให้มีความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนามากขึ้น ทำให้มีสติมากขึ้น ทำให้รู้ว่าความสงบที่แท้จริงเป็นอย่างไร
นร. ร.ร.มารีย์วิทยา
จะไม่ทำให้แม่เสียใจอีกแล้ว
การมาวัดวะภูแก้วครั้งนี้ทำให้ดิฉันได้ฝึกความอดทน ได้ทำสมาธิ ได้ทราบเรื่องราวที่ไม่เคยรู้เลยและทำให้ดิฉันได้รู้สำนึกบางอย่างที่เคยทำกับแม่ไว้ที่อาจารย์ดาราวรรณได้เล่าเรื่องเด็กผู้ชายที่อยู่สุรินทร์ให้ฟัง เพราะดิฉันเคยทำให้แม่เสียใจอย่างนี้มาแล้วเมื่อได้ฟังจึงคิดสำนึกได้ว่าจะไม่ทำเรื่องนี้อย่างนี้ให้แม่ต้องเสียใจ และที่สำคัญอีกอย่างคือ ทำให้ดิฉันไม่คิดฟุ้งซ่านเรื่องครอบครัวที่ผ่านมาได้ระยะหนึ่งดิฉันจึงคิดว่าจะใช้สมาธิให้เกิดประโยชน์มากที่สุดและจดจำไว้สำหรับทุกสิ่งที่ได้รับมาไว้จำเป็นประสบการณ์ และนำไปปฏิบัติ
นร. ร.ร.มารีย์วิทยา
ขอบคุณที่ให้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่
ดีใจมากที่ได้มา จะเสียใจมากถ้าไม่ได้มาตอนแรกไม่อยากมาเพราะวันที่ 12 ต้องการจะไปเที่ยวไปดูคอนเสิร์ตเจ และข้าพเจ้าไม่ชอบเข้าวัดด้วย พอมาวันแรกอยากกลับบ้านเพราะเบื่อกับการนั่งสมาธิ และไม่เคยนั่ง พอถึงวันที่ 2 มีคอนเสิร์ตเจกระวนกระวายมาก ข้าพเจ้าทำสมาธิไม่ได้เลยและคิดว่าจะหนีไปดูกัน พอคืนที่ 3 ข้าพเจ้าเริ่มนั่งสมาธิ ในใจก็ท่องคำว่าพุทโธไปเรื่อย มันก็เลยเกิดอาการไหล แล้วรู้สึกว่าจิตตอนนั้นสงบมากตอนแรกข้าพเจ้านั่งไม่ได้เพราะคิดว่าเราเป็นเด็กเกเร เด็กไม่ดี อยู่โรงเรียนโดยว่าประจำ ไม่ใช่เฉพาะตัวของข้าพเจ้าคนเดียว กลุ่มของข้าพเจ้าก็คิดเหมือนข้าพเจ้า ที่แรกคิดว่าจะนั่งไม่ได้ กระวนกระวายอยากกลับบ้านมาก พอนั่งได้แล้วมีความคิดว่าอยากจะนั่งอีกบ่อย ๆ พอเช้าวันที่ 4 ข้าพเจ้าก็นั่งจนจิตเกิดสงบ และนึกถึงพระคุณของแม่ เพราะข้าพเจ้าทำให้แม่ร้องไห้ ข้าพเจ้าคิดว่าถ้ากลับไปบ้านข้าพเจ้าจะต้องปรับตัวเองใหม่และไปขอโทษแม่และตอนนี้ข้าพเจ้าไม่อยากกลับบ้านเลย ข้าพเจ้าขอสัญญาว่า ข้าพเจ้าจะต้องชวนพ่อแม่และญาติของข้าพเจ้ามาให้ได้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ทำให้ข้าพเจ้าได้เริ่มต้นใหม่
รุจิรา เปตะคุ ม. 4/3
ร.ร.มารีย์วิทยา
กลับหน้าหลัก