“ถวัลย์” ถามพระต้าน “ภิกษุสันดานกา” ทำไมไม่ไปประท้วงพระมั่วสีกา ลวง ปชช.![](/jatukarm/icon_new.gif)
ถวัลย์ ดัชนี
“ถวัลย์ ดัชนี” ศิลปินแห่งชาติ โต้ภิกษุต้าน “ภิกษุสันดานกา” ทำไมไม่ไปประท้วงพระนอกรีต มั่วสีกา ลวงประชาชน หรืออยากดังจึงทำตัวให้เป็นข่าว ยันคณะกรรมการตัดสินภาพเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ภาพดังกล่าวสะท้อนบาดแผลในกระพี้พระพุทธศาสนา ขณะที่ “ประหยัด พงษ์ดำ” ชี้หากหยุดแสดงภาพแล้วทุกฝ่ายสบายใจก็ดี แต่ก็เป็นการปิดกั้นข้อมูล ยันภาพวาดสะท้อนความเป็นจริงในสังคม ด้าน อธิการบดี ม.ศิลปากร ทนแรงต้านไม่ไหว อาจพิจารณาหยุดการแสดงภาพดังกล่าว ด้านฝ่ายต้านหารือนักกฎหมายทำสำนวนฟ้อง ยื่นวันที่ 9 ต.ค.นี้
องค์กรทางพระพุทธศาสนา 53 องค์กร ยังคงเรียกร้องให้มีการระงับการแสดงภาพ “ภิกษุสันดานกา” และถอดถอนรางวัลจากนายอนุพงษ์ จันทร ผู้วาดภาพอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะมีการยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เพราะถือว่าผู้วาดภาพ และคณะกรรมการตัดสินภาพ เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 206 ของประมวลกฎหมายอาญา ที่มีโทษถึงขั้นจำคุก ซึ่งในคณะกรรมการตัดสินภาพดังกล่าวมีศิลปินแห่งชาติร่วมอยู่ด้วย
ล่าสุด นายถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2544 หนึ่งในกรรมการตัดสินฯ ออกมาระบุว่า เป็นคณะกรรมการตัดสินภาพของนายอนุพงษ์มานานกว่า 8 ปีแล้ว ผลงานภาพของนายอนุพงษ์สื่อถึงปรัชญาของพระพุทธศาสนา เป็นกระจกสะท้อนความเป็นไปของเศรษฐกิจ สังคม และพระพุทธศาสนาของสังคมไทยอย่างตรงไปตรงมา
“รูปภิกษุสันดานกา เป็นการแสดงออกทางความคิด ให้เห็นบาดแผลของกระพี้ในพระพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่ามีสันดานเป็นอย่างไร รวมทั้งการตัดสินก็มีคณะกรรมการที่เป็นศิลปินแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 18 คน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และจบปริญญาจากเมืองนอกทั้งสิ้น หากทางองค์กรทางพระพุทธศาสนาจะฟ้อง ผมยินดีรับคำฟ้อง และจะไปขึ้นศาล”
ภาพ “ภิกษุสันดานกา”
นายถวัลย์ กล่าวอีกว่า การที่พระมหาโชว์ ทัสสนีโย รอง ผอ.สำนักส่งเสริมพุทธศาสนาและบริหารสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) พูดว่า ภาพหมา-นุษย์ เป็นภาพภิกษุสันดานหมา ในวันที่ไปยื่นหนังสือต่อ รมว.ศึกษาธิการนั้น ตนเห็นว่าไม่ใช่การปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ และเป็นคำพูดที่ต่ำช้ากว่าความเป็นพระ เพราะพระต้องอยู่ในสมณะ มีหิริโอตตัปปะ และไม่มีทิฐิ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติของสงฆ์
“ผมอยากถามว่าทำไมพระกลุ่มนี้ไม่ไปเรียกร้องหรือแก้ปัญหาพระที่ออกมาแก้ผ้า มั่วสีกา หรือใช้มีดกรีดร่างกาย หลอกลวงประชาชน หรือโดนจี้จุดจึงร้อนตัวเกินไป หรือเป็นพวกอยากดัง จึงต้องทำตัวเป็นข่าว หากจะฟ้องก็ยินดีให้ฟ้องได้ทุกศาล หรือว่าจะไปฟ้องจตุคาม ศาลเจ้าแม่กวนอิม พระอินทร์ พระอิศวร ก็เชิญ ผมไม่สนใจ แต่เห็นว่าพระกลุ่มนี้ไม่เหมาะสมในสมณะ และเป็นพระหน้าเดิมที่ออกมาเดินขบวนเรียกร้องการบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” นายถวัลย์ กล่าว
ขณะที่ นายประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพพิมพ์) พ.ศ.2541 กรรมการตัดสินฯ อีกท่านหนึ่ง กล่าวว่า ไม่กังวลหากจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดี แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าเพื่อให้เกิดความสงบในสังคม หากจะมีการหยุดแสดงภาพภิกษุสันดานกา และภาพอื่นๆ ที่กระทบต่อพระพุทธศาสนาก็ยอมรับได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็จะเหมือนเป็นการปิดกั้นการรับข้อมูลของคนที่สนใจ
“ผมยืนยันว่าการตัดสินของคณะกรรมการมีการพิจารณาแล้วว่า ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อสังคม ไม่ลามกอนาจาร ซึ่งภาพภิกษุสันดานกา ถือเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นความเป็นจริงในสังคม โดยเฉพาะคนที่อาศัยผ้าเหลืองแล้วประพฤติตัวไม่เหมาะสม” นายประหยัดกล่าว
ประหยัด พงษ์ดำ
ด้าน นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักพระพุทธศานาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายของ พศ.แล้ว เพื่อพิจารณาว่าจะมีวิธีใดที่จะดำเนินการทางด้านกฎหมายกับนายอนุพงษ์ และคณะกรรมการได้บ้าง โดยกำชับให้เร่งพิจารณาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 9 ต.ค.นี้ เพราะเรื่องภาพภิกษุสันดานกา และภาพหมา-นุษย์ เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจพุทธศาสนิกชนมาก
ขณะที่ นายสมชาย สุรชาตรี โฆษก พศ. กล่าวว่า ผอ.พศ.มอบให้ฝ่ายกฎหมายของ พศ.พิจารณาถึงข้อความผิดของนายอนุพงษ์ จันทร ผู้วาดภาพ “ภิกษุสันดานกา” และ “หมา-นุษย์” รวมไปถึงคณะกรรมการคัดเลือกและตัดสินการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 53 เพราะถือว่ามีความผิดเข้าข่ายมาตราที่ 206 ของประมวลกฎหมายอาญา ระวางโทษจำคุก 1-7 ปี และปรับ 2,000-14,000 บาท
“การตีความของนายอนุพงษ์ นำเสนอออกมาเป็นภาพที่รุนแรงเกินกว่าที่มีในพระสูตร และกระทบกระเทือนจิตใจพุทธศาสนิกชน ซึ่งตั้งแต่อดีต การนำเสนอภาพเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา จะเป็นภาพในเชิงสร้างศรัทธา และให้ชาวพุทธปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามหลักคำสอน”
ขณะที่ความเคลื่อนไหวขององค์กรเครือข่ายพุทธศาสนา 53 องค์กร
นั้น นายสุเมธัส ศิวัตรา วุฒิอาสา ธนาคารสมอง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ทางองค์กรทางพระพุทธฯได้มอบให้ตนมาดูแนวทางด้านกฎหมาย เพื่อหาทางดำเนินการเกี่ยวกับผู้วาดภาพภิกษุสันดานกา และคณะกรรมการที่ตัดสินภาพดังกล่าว เพราะเป็นการลบหลู่ ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ซึ่งในส่วนการที่จะดำเนินการฟ้องศาลอาญาในวันที่ 9 ต.ค.นั้น นายสันติพงษ์ นิมิตรดี ทนายความอิสระ จะเป็นผู้ทำสำนวนยื่นฟ้องต่อศาล ร่วมกับนายอนุรักษ์ รุ้งแจ้ง อดีตพนักงาน ฝ่ายต่างประเทศ ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่
อย่างไรก็ดี นายญาณวิทย์ กุญแจทอง รักษาราชการแทนรองอธิการบดี ฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) เปิดเผยว่า มศก.จะเชิญคณะกรรมการคัดเลือกและตัดสินการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 53 มาประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับการนำเสนอภาพดังกล่าว ซึ่งมีแนวโน้มที่จะหยุดการแสดงภาพดังกล่าวต่อสาธารณชน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
ที่มา จากหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการออนไลน์"
|