หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

‘ไล่ตงจิ้น’ ลิขิตชีวิตเศรษฐีจาก ‘ลูกขอทาน’


‘ไล่ตงจิ้น’ ผู้สร้างตำนานความสำเร็จจาก ‘ลูกขอทาน’

“ความร่ำรวยที่แท้จริง อยู่ที่ คุณมีคุณค่ามากแค่ไหน ถ้าไม่มีเงินเหลืออยู่เลย” คำกล่าวนี้ออกจะท้าทายกระแสทุนนิยมเช่นทุกวันนี้ไม่น้อย...ทว่า ณ มุมเล็กๆ ของโลก 360 องศา ยังมี ‘ชีวิตสวะ’ ของ ‘ลูกขอทาน’ คนหนึ่งซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึง ‘สมบัติ’ ที่มีค่าเหนือทรัพย์สินเงินทอง

ทะเบียนประวัติของ ‘ไล่ตงจิ้น’ อาจดูต่ำต้อยที่สุดในโลก จากที่มีพ่อเป็นขอทานตาบอด มีแม่กับน้องชายคนโตปัญญาอ่อน แถมฟ้ายังมอบตำแหน่ง ‘เสาหลัก’ของ 14 ชีวิตในครอบครัวตั้งแต่ก่อนจำความได้ ทุกๆ ที่ตั้งแต่ใต้ต้นไม้ ใต้สะพาน สถานีรถไฟ สุสาน ยันเล้าหมู่ ล้วนเคยเป็น ‘บ้าน’ ของพวกเขามาก่อน

ใบประกาศเกียรติคุณกว่า 80 ใบที่ไล่ได้สมัยเรียนชั้นประถมศึกษา เป็นแค่กระดาษแผ่นบางๆ ที่เทียบไม่ได้กับอาหารที่ขอทานมา หรือที่ซุกหัวนอนพอกันแดดบังฝน

จนเส้นกราฟชีวิตลูกพรรคกระยาจกคนนี้พุ่งสู่ตำแหน่งเกียรติยศในปี 1999 เมื่อไล่ต่งจิ้นในวัย 40 ปีได้รับรางวัล 1 ใน 10 บุคคลดีเด่นแห่งไต้หวัน จากนั้นเขาตัดสินใจจรดปากกาถ่ายทอดทุกความขมขื่น รอยยิ้ม และความฝันเป็นหนังสือเล่มแรก ‘ลูกขอทาน (乞丐囝子)’ ซึ่งได้รับรางวัลนักเขียนยอดเยี่ยมในปี 2000 และยังติดอันดับหนังสือขายดีจนทุกวันนี้


‘ลูกขอทาน’ ขึ้นรับรางวัล 1 ใน 10 บุคคลดีเด่นแห่งไต้หวันประจำปี 1999

ทว่าเบื้องหลังความภูมิใจสูงสุดนั้น แลกมาด้วยชีวิตบัดซบของพี่สาวคนเดียว ที่ยอมพลีกาย ‘ขายตัว’ ตั้งแต่ 13 ขวบ เพื่อต่อลมหายใจให้ครอบครัวและช่วยให้ไล่ได้เรียนหนังสือ อันเป็นจุดพลิกผันสำคัญ

“ชะตาชีวิต-เป็นลิขิตจากสวรรค์ที่เราทุกคนเลือกไม่ได้ ลูกขอทานก็ยังคงเป็นลูกขอทานวันยังค่ำ แต่ความวิริยะพากเพียรเป็นอาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่จะพลิกเอาชนะชะตาชีวิตได้” ไล่กล่าวอย่างผู้มีชัยเหนือชะตากรรม

ไล่เล่าว่า มรดกที่ ‘พ่อตาบอด’ ทิ้งไว้ให้ คือร่องรอยถูกตีตามเนื้อตัวที่ยังเป็นประจักษ์พยานความรักของพ่อที่ยึดคติว่า ‘รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี’ จนถึงทุกวันนี้ เขายังอดขอบพระคุณรอยไม้เรียวของพ่อไม่ได้ “เด็กๆ แค่แอบไปดูทีวี (ขาว-ดำ) ของคนอื่น กลับมาก็ถูกพ่อตีแล้ว ผมคิดว่า เป็นเพราะชีวิตของพ่อลำบาก ท่านสะสมความทุกข์และความหวังไว้มาก จึงระบายออกมาที่ผม”

การดูแลแม่ที่มีไอคิวเพียง 58 และน้องชายไอคิวต่ำกว่า 47 ที่ทุกวันนี้ยังใส่รองเท้ากลับข้าง และเสมือนระเบิดเวลาที่จะระบายความบ้าออกมาได้ทุกเมื่อ ยังเป็น ‘เมล็ดพันธุ์แห่งความอดทน’ ที่หยั่งรากลึกสู่ใจของไล่ อันถูกแปรเป็นพลังแห่งการเอาชนะทุกอุปสรรคและคำหยามเหยียดของผู้คนรอบข้าง เป็นด่านปราการทดสอบและขัดเกลาจิตใจให้ก้าวเดินจากชะตาลิขิตของลูกขอทาน


‘ลูกขอทาน’ หนังสือเล่มแรกของ ‘ไล่ตงจิ้น’ ที่ขณะนี้ได้รับการแปลเป็นภาษไทย เกาหลี และญี่ปุ่น

วีรบุรุษจากเศษเงินเศษอาหารยังย้ำว่า ‘คุณค่า’ ที่สำคัญสุดในชีวิต อยู่ที่การผ่านทุกรสชาติของชีวิต และเรียนรู้ที่จะ ‘อดเปรี้ยวไว้กินหวาน’ ต้องขยันก่อนจึงจะมีวันแห่งความสำเร็จ เหนือสิ่งอื่นใดคือการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่คำนึงถึงแต่ประโยชน์ของตัวเอง

ไล่ตงจิ้นยังเผยเคล็ดลับความสำเร็จด้วยคำเพียง 2 คำ คือ ‘ปณิธานอันมุ่งมั่น (立志)’ และ ‘ความมั่นใจในตัวเอง (自信心)’ ที่ต้องอาศัยความขยันที่หมั่นหยอดกระปุกทุกวัน เพื่อเอาชนะ ‘ความน้อยเนื้อต่ำใจ (自卑)’ ยิ่งขยันมากก็ยิ่งเก็บเกี่ยวดอกผลให้แก่ชีวิตได้มากเท่านั้น


วันแห่งความสำเร็จกับปริญญาตรีใบแรกสาขาวิศวกรรม-อิเล็กทรอนิกส์ จากมหาวิทยาลัยซิวผิงไถจง เมื่อมิถุนายน 2006

ยากจกผู้ไม่คิดจะวิ่งตามเงิน

ชายผู้เรียนรู้ที่จะต้องออกหาเงินเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่วัยเพียง 2 ขวบ ด้วยการย่างเท้าน้อยๆ ตระเวนขอทานวันละกว่า 40 กิโลเมตร เคยชินกับรสชาติความอดอยากและเจ็บปวดกับสายตาดูถูกดูแคลนของสังคม กล่าวด้วยแววตาจริงจังและจริงใจว่า “เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต”

เรียงความชิ้นแรกสมัยเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในหัวข้อเรื่อง ‘ปณิธานของฉัน’ ด.ช.ไล่เขียนส่งครูด้วยความรู้หนังสือไม่กี่ตัวในขณะนั้นเพียงสั้นๆ ว่า “ขอทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่เพื่อความผาสุกของมวลชน (为人类谋福利做大事)”

ไล่ตงจิ้นในวันนี้ยังเล่าว่า แท้จริงแล้วมันเป็นหนึ่งในปณิธานของท่าน ดร.ซุนยัดเซน บิดาสาธารณรัฐจีน ที่ก้าวเข้ามาเป็น ‘ฮีโร่’ ในดวงใจลูกยาจกตกยากอย่างเขา ให้ยึดเป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิตนับตั้งแต่วัยประถม และเป็นหน่อเชื้อแห่งการทำความดีที่เติบโตมาพร้อมกับเขา

แน่นอนว่า แต่ละคนย่อมมีเป้าหมายแตกต่างกันไป สำหรับไล่แล้ว การได้เรียนหนังสือถือเป็นความฝันสูงสุดในชีวิต แม้จะเพิ่งรับปริญญาตรีใบแรกในวัยย่าง 48 ปี ทว่าไล่ยังมุ่งมั่นที่จะไขว่คว้าปริญญาโทและเอกมาครองต่อไปในอนาคต เพื่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาร้านบริการซ่อมอุปกรณ์ไฮ-เทคโนโลยีเล็กๆ ของตนเอง

ส่วนความปรารถนาสูงสุดในฐานะพ่อของลูกสาว 2 คนและลูกชาย 1 คน ไล่ขอเพียงให้ลูกๆ อยู่เย็นเป็นสุข และเรียนรู้ความมัธยัสถ์และความแข็งแกร่งของพ่อที่ไม่ย่อท้อต่อชะตาชีวิต แม้ไล่จะเพิ่งให้ลูกๆ ได้รู้เบื้องหลังของตนพร้อมกับผู้อ่านหนังสือเล่มแรกของเขาก็ตาม

โอกาสก้าวขึ้นเป็น ‘นักธุรกิจใหญ่’ ในกิจการด้านไฟฟ้า-ไอทีที่เขาเรียนจบมาฉาบทออยู่เบื้องหน้า ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นอีกครั้งบนเส้นทางชีวิตสายใหม่ แต่นาทีนี้เขากลับขอเลือกที่จะทำสิ่งที่ ‘มีความหมาย’ ในช่วงบั้นปลายที่เหลืออยู่


‘ไล่ตงจิ้น’ กับภรรยาและลูกๆ ทั้ง 3 คน

ตำนานความสำเร็จจากอดีตขอทานคนนี้ ยังได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง ซึ่งไล่มักได้รับคำเชิญให้ไปบรรยายตามบริษัทหรือองค์กรต่างๆ เสมอ รวมทั้งที่เมืองไทย

“ชีวิตของผมทุกวันนี้มีความสุขมากที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อเป็นกำลังใจให้คนอื่นได้ลุกขึ้นมาสู้ชีวิตและทำแต่เรื่องดีๆ ตอนเด็กๆ ผมได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมามากมาย ตอนนี้มีโอกาสแล้วก็อยากจะตอบแทนคืนสู่สังคม ผมคิดว่าเรื่องร้ายๆ ทั้งหลายในชีวิต คือแรงบันดาลใจให้ผมเขียนหนังสือ อย่างน้อยก็เป็นการส่งสารถึงคนที่เคยทำร้ายผม ให้กลับใจเป็นคนดีของสังคม”

ดูเหมือนว่า ‘สมบัติ’ ที่อดีตยาจกไล่ตงจิ้นสะสม มิได้เต็มไปด้วยเงินทองของมีค่าเหมือนอย่างเศรษฐีทั่วไป !

อ่าน อัตชีวประวัติของไล่ตงจิ้นฉบับเต็ม 49 ตอน ได้ที่ http://www.palungdham.com/board/showthread.php?p=300#post300


ไปข้างบน