หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

แจก “ลูกอมแก้ง่วงหลวงปู่ทวด” ปลุกเสก ไอเดีย ตำรวจทางหลวง เนื่องในเทศกาลสงกรานต์


“ลูกอมแก้ง่วงหลวงปู่ทวด”

เทศกาลสงกรานต์เปิดฉากอย่างเป็นทางการแล้วที่ท้องสนามหลวง ฝั่งวัดพระแก้ว ตอนเย็นวานนี้ (8 เม.ย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เปิดงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. และทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมพิธี ภายในงานได้อัญเชิญพระพุทธรูปวัดต่างๆ จาก 4 ภาค มาประดิษฐานให้ประชาชนสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค การออกร้านขายสินค้าชุมชน ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจมาร่วมชมงานจำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเทศกิจนับพันนาย มีการตรวจกระเป๋า หาวัตถุระเบิดอย่างละเอียดยิบ

ช่วงสายวันเดียวกัน นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว.ยุติธรรม นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้นำข้าราชการและลูกจ้างกระทรวงยุติธรรม เดินรณรงค์โครงการ “ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย” ในเทศกาลสงกรานต์ จากถนนพหลโยธินช่วงหน้าโรงเรียนหอวัง-ห้างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน โดยมีนักร้องลูกทุ่งยอดนิยม โจนัส แอนเดอร์สัน และ คริสตี้ กิ๊บสัน เข้าร่วมเดินแจกแผ่นพับด้วย พร้อมกันนี้ นายชาญชัยเปิดเผยว่า ฝากเตือนประชาชน หากดื่มสุราหรือแอลกอฮอล์ ไม่ควรขับรถเด็ดขาด หากถูกจับดำเนินคดี เมื่อเข้าระบบของกรมคุมประพฤติ จะมีโปรแกรมอบรมที่เข้มข้นยาวนานขึ้นเพื่อให้เข็ดหลาบ ส่วนเหยื่อจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ จะได้รับการชดเชยโดยสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งตามความจริงได้

ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.รร.นรต. เปิดเผยว่า ระหว่างวันหยุดช่วงสงกรานต์ 13-17 เม.ย. ได้จัดส่งนักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 4 จำนวน 255 นาย ลงพื้นที่เพื่อร่วมปฏิบัติงานกับตำรวจนครบาลในพื้นที่ทุกสถานีตำรวจ เพื่อร่วมปฏิบัติงานดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน โดยจะเข้าร่วมดูแลบ้านเรือนประชาชนที่เข้าร่วม “โครงการฝากบ้านกับตำรวจ” ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการมากกว่าปีที่ผ่านมา

ขณะที่ พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ รักษาการ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ได้เชิญอธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมขนส่งทางบก ผู้จัดการ บขส. ผบก.ทล. และ ผบก.ทั้ง 9 จังหวัด ในพื้นที่ บช.ภ. 1 ที่อยู่ในเส้นสัญจรของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มาร่วมกันหารือเพื่อวางแผนอำนวยการจราจร พร้อมกับกำชับให้เข้มงวดในเรื่องการบังคับใช้ กฎหมาย สำหรับถนนสายเอเชียช่วงระหว่าง จ.พระนครศรีอยุธยาถึง จ.ชัยนาท มีการก่อสร้างตลอดเส้นทาง ขณะนี้ได้ประสานฝ่ายที่เกี่ยวข้องเคลียร์เส้นทางให้มากที่สุด

นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวงปิ๊งไอเดียกระฉูด แจกลูกอมหลวงปู่ทวดให้ผู้ขับขี่อมให้หายง่วง โดย พ.ต.อ. ปัญญา ปิ่นสุข ผกก.2 บก.ทล. เปิดเผยว่า ช่วงสงกรานต์ ทุกปีมักเกิดอุบัติเหตุประจำ ดังนั้น ในปีนี้ได้หารือกับตำรวจในสังกัด ลงความเห็นควรแจกลูกอมที่มีรสเปรี้ยวจี๊ดให้กับผู้ขับขี่ให้ตื่นตัว ไม่ง่วง พร้อมติดต่อไปยังบริษัทผู้ผลิตลูกอม และต้องใช้งบในการผลิตประมาณ 2 แสนบาท จะได้ลูกอม 4-5 แสนเม็ด ต่อมาพระครูประภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทราบเรื่อง และเห็นเป็นกิจกรรมที่ดี ช่วยคนเดินทางให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ได้บริจาคเงินให้ 2 แสนบาท นำไปจ้างโรงงานผลิตลูกอมได้ตามจำนวนต้องการ และสามารถแจกประชาชนที่เดินทางในช่วงสงกรานต์นี้

ขณะที่ พ.ต.ท.สมชาย จิตสงบ สว.ส.ทล.3 กก.2 (ประจวบคีรีขันธ์) ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าแรกในการแจกลูกอมสุดเปรี้ยวครั้งนี้ กล่าวว่า สำหรับลูกอมชนิดนี้ตั้งชื่อว่า “ลูกอมแก้ง่วงหลวงปู่ทวด” เนื่องจากหลังการผลิตแล้ว เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐานหลวงปู่ทวด สก.ที่ใหญ่ที่สุด ได้นำลูกอมทั้งหมดเข้าพิธีปลุกเสกในพิธีปลุกเสก “หลวงปู่ทวด จตุคามรามเทพ รุ่นถวายพ่อหลวง” เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมาด้วย โดยมีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ 2,999 รูป ร่วมปลุกเสก


พ.ต.ท.สมชายกล่าวอีกว่า สำหรับลูกอมชนิดนี้บรรจุในซองพลาสติกสีเงิน 4 เม็ด หน้าซองมีสติกเกอร์สีขาวมีภาพหลวงปู่ทวด และพระนามาภิไธย สก. และข้อความว่า “อมแล้วดี ขับขี่ปลอดภัย” ส่วนด้านหลังซองมีข้อความว่า “ด้วยความปรารถนาดีจาก พล.ต.ต.ณพรรษ เย็นสุดใจ ผบก.ทล” และแจกจ่ายให้ผู้ขับขี่ได้ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.นี้ เริ่มจากตำรวจทางหลวงประจวบฯและจะส่งไปให้ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศแจกจ่ายด้วย “ผู้รับลูกอมไปขอให้นำไปอม อย่าเก็บไว้ หากจะนำไปบูชาควรเก็บซองที่มีรูปหลวงปู่ทวดไปบูชาเป็นสิริมงคลได้ เพราะผ่านพิธีปลุกเสกแล้ว” พ.ต.ท.สมชายกล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.สมชาย เกาสำราญ ผกก.3 ทล.ที่ดูแลเส้นทางสายภาคตะวันออกได้กำชับให้ตำรวจทางหลวงเตรียมพร้อมในการดูแลความปลอดภัยด้านการจราจร โดย พ.ต.ท.พิชัย โกจารย์ศรี สว.ส.ทล.4 กก.3 (จันทบุรี) กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และตราดมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง คาดว่าจะมีประชาชนสัญจรจำนวนมากจึงได้ ร่วมกับฝ่ายปกครอง แขวงการทาง สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สาธารณสุข ขนส่งจังหวัด ตำรวจท้องที่และภาคเอกชนคอยดูแลการจราจรอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด ร่วมกับบริษัท ฟอร์ด และชมรมอู่ซ่อมรถยนต์ จ.จันทบุรี ร่วมตั้งศูนย์บริการตรวจสภาพรถฟรีตามสถานีบริการของตำรวจทางหลวง 3 แห่ง คือช้างข้าม ท่าสอนและทับไทร หรือหากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่ โทร. 1193 หรือ 0-3941-8579

ด้าน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเส้นทางผ่าน ไปทางภาคเหนือ หรือถนนสายเอเชียที่มีการจราจรคับคั่งทุกเทศกาล ล่าสุด นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยม การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ขนส่งที่หน่วยบริการบนถนนสายเอเชียหลัก กม.ที่ 65 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน โดยมีนายกนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพร้อมเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและรายงานถึงการเตรียมรับการจราจรในช่วงสงกรานต์ เน้นการลดอุบัติเหตุ ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกพร้อมเข้มงวดกวดขันสภาพความพร้อมของรถโดยสารประจำทางในเขตพื้นที่รับผิดชอบและพนักงานขับรถทุกคัน หากผู้ ใช้รถใช้ถนนพบเห็นรถโดยสารที่ไม่ปลอดภัยสภาพเก่าทรุดโทรมมากให้แจ้งที่ โทร. 1584 ทันที เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

ส่วน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวแห่ไปเยือนมากที่สุดได้จัดเตรียมงานสงกรานต์ “ประเพณีปี๋ใหม่เมือง” ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยจัดกิจกรรมไว้มากมาย โดยเฉพาะการประกวด “แม่ญิงขี่รถถีบก๋างจ้อง” เฉพาะวันที่ 8 เม.ย.วันเดียว มีสาวงามมาสมัครถึง 95 คน รอบแรกคัดเหลือ 60 คน จากนั้นจะเข้าประกวดชิงตำแหน่งในวันที่ 13 เม.ย.นี้ ผู้เข้าประกวดต้องขี่รถถีบเป็น พูดภาษาคำเมืองได้ สำหรับบริเวณคูเมือง รอบเมืองเชียงใหม่มีวัยรุ่นมาเล่นน้ำประปราย ขณะเดียวกันชมรมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ได้จัดมหกรรมแข่งขันลาบเมืองเพื่ออนุรักษ์อาหารพื้นเมืองด้วย

ด้าน จ.เชียงราย นางธัญภา นิโครธานนท์ ผอ.ททท. ภาคเหนือ เขต 2 กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้คาดว่ามีนักท่องเที่ยวไปเยือนเชียงรายไม่ตํ่ากว่า 5 หมื่นคน คาดจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ห้องพักในโรงแรมหรือรีสอร์ตต่างๆถูกจองไปแล้วกว่าร้อยละ 80 สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจประเพณี “แห่พระแวดเวียงเจียงฮาย” และงานสงกรานต์ไทย-ลาวที่ อ.เชียงแสน ในวันที่ 16-18 เม.ย.

จากหนังสือพิมพ์ "ไทยรัฐ"


ไปข้างบน