หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

โหราศาสตร์เปลี่ยนชีวิต?

ใครก็อยากเกิดมาแล้วมีชีวิตที่เพียบพร้อม แม้ไม่ถึงขั้นรวยล้นฟ้า แต่ก็อยากมีเส้นทางกลีบกุหลาบ ประกอบไปด้วย ความสำเร็จทางการศึกษา การงาน ความรัก ครอบครัว

แล้วถ้าไม่เป็นอย่างที่หวัง ซึ่งความหวังของแต่ละคนก็ต่างกันไปอีก ขึ้นอยู่กับ “ความต้องการ” “ความพอเพียง” ของมนุษย์ปุถุชนจะมีการขัดเกลาแตกต่างกันไปอย่างไร ยิ่งถ้าความอยากมีมากจนต้องมีต้องได้ แล้วพร้อมทำทุกวิถีทาง การเลือกพึ่งหนทางแห่งโหราศาสตร์ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่หลายคนเลือกมาเป็นพื้นฐานปูทางเดิน


ปราย

ชื่อดีมีชัย แต่สุดท้ายอยู่ที่การกระทำ

คฑา ชินบัญชร หมอดูไพ่ยิปซี-ฮวงจุ้ย-ลายเซ็น-เปลี่ยนชื่อ ให้ความเห็นว่า ศาสตร์ของการเปลี่ยนชื่อนั้นมีมาแต่โบราณ ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย อียิปต์ และไทย สำหรับของไทยเรามักเรียกว่าตำรามหาทักษา ซึ่งตั้งชื่อให้ถูกโฉลกกับวันเดือนปีเกิด และเป็นชื่อที่ให้ความหมายในเชิงมงคล บางประเทศก็เอาชื่อตามชื่อของเทพเจ้าหรือกษัตริย์มาตั้งเป็นชื่อลูกหลานของตน

แน่นอนว่า ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ก็เป็นชื่อที่เป็นมงคลมีความหมายดี แต่เมื่อผู้ใช้ชื่อนั้นเติบโตมาจนถึงวัยทำงานอาจจะรู้สึกว่าชีวิตเกิดมีอุปสรรคปัญหา ติดขัดในเรื่องต่างๆ ก็อยากจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอุปสรรคให้หมดไป ซึ่งทุกคนมีสิทธิ์ทำได้ ในเมื่อรู้สึกว่าชื่อไม่ดี ไม่ถูกโฉลก ก็อยากทำให้ดีขึ้นเป็นของธรรมดา เมื่อทำแล้วสบายใจ มั่นใจ และไม่เดือดร้อนใครก็ทำไปได้เลย

หมอคฑายังเล่าจากประสบการณ์ของตัวเองว่า กว่าครึ่งของคนที่มาดูหมอก็มักจะถามว่าชื่อดีหรือไม่ ถูกโฉลกหรือเปล่า จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่ อยากเปลี่ยนชื่อเพื่อเสริมดวงชะตา หน้าที่การงานให้ดีขึ้น ก็จะแนะนำไปตามจริงและเห็นสมควร แต่สุดท้ายก็จะบอกเสมอ ในชีวิตคนเราถ้าเปรียบสัดส่วน 100 เปอร์เซ็นต์นั้น มีหลายส่วนที่ประกอบกันขึ้นมาจนครบ 100 ซึ่งทุกอย่างมีความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นวันเดือนปีเกิด ดวงดาว ชื่อ สุดท้ายที่สำคัญก็คือการกระทำของเราเองที่มีส่วนจะพาเราไปสู่สิ่งที่ดีหรือไม่ ส่วนใหญ่คนที่คิดดี ทำดี ก็มักจะพบเจอแต่สิ่งที่ดี ส่วนคนที่ใช้ชีวิตประมาทก็มักจะเจอแต่อุปสรรคปัญหาเป็นของธรรมดา อย่างที่โบราณว่าไว้ว่าทำอย่างไรมักได้อย่างนั้น

“ในส่วนตัวแล้วก็มีความเชื่อว่าการตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อนั้นมีผลต่อจิตใจ และความมั่นใจเป็นส่วนประกอบรวมๆ กัน แต่อย่าลืมที่จะเป็นคนดี ขยันทำงาน ถ้าเปลี่ยนชื่อดีอยากรวยไม่ทำงานก็คงรวยไม่ได้ มันเป็นเหตุปัจจัยที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันไปหมด”


คฑา

เปลี่ยนชื่อช่วยด้านจิตใจ

จุฑามาศ ณ สงขลา ผู้เขียนพลังชื่อ ตัวเลขอักษร และเป็นผู้สนใจเรื่องพลังหินบำบัด มีผลงานเขียนออกมาแล้วเกือบ 10 เล่ม ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า สนใจศึกษาเรื่องวิชาเลขศาสตร์สากลมาจากประเทศออสเตรเลีย โดยหลักการตั้งชื่อให้เป็นมงคลนั้นเป็นคัมภีร์ทักษาที่สืบทอดมาแต่โบราณ โดยการหลีกเลี่ยงชื่อหรืออักษรที่เป็นกาลกิณี ผู้ชายมักตั้งชื่อให้มีอักษรที่เป็นเดชนำหน้า ผู้หญิงก็จะตั้งชื่อให้เป็นศรีนำหน้า จึงจะถือว่าเป็นชื่อที่เป็นสิริมงคล ถูกโฉลกกับเจ้าของ

“แม้ว่าจะมีชื่อ อักษรที่บวกรวมกันแล้วไม่ตรงกับเลขรหัสชีวิต ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดความไม่ดีแต่อย่างใดกับชีวิตเสมอไป หากคุณเองไม่ได้คิดอยากเปลี่ยนชื่อ ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตมีสิ่งใดติดขัด สามารถควบคุมชีวิตตัวเองให้อยู่ในที่ในทางได้อย่างที่ต้องการจะเป็นก็ใช้ได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกับชีวิตของคนเราเช่นดวงดาว วันเดือนปีเกิด และการกระทำของเราเอง ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบซึ่งกันและกัน ส่วนการตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อใหม่ ก็สามารถสร้างความมั่นใจ ความสบายใจ ให้กับเจ้าของชื่อได้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร ถ้าทำแล้วดี ถูกโฉลกก็สามารถทำได้ แต่ไม่ได้แนะนำว่าทุกคนต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ดีหมด อาจจะแก้เคล็ดอื่นๆ ก็ได้ เช่น การปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยที่บ้าน เปลี่ยนแค่ชื่อเล่น ก็ช่วยแก้ได้เช่นกัน”

ทางด้าน ชัชวไล ญาโนทัย เจ้าของบริษัท แดงทัวร์แอนด์เทรด และนักพยากรณ์ดวงชะตาจากดวงดาวแบบเวสเทิร์น แอสโทโรจี ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องของการเปลี่ยนชื่อว่า ในฐานะนักพยากรณ์ ดวงดาวนั้นมีอิทธิพลกับชีวิตของคนมากที่สุด คือวันเกิด เวลาเกิด รองลงมาคือการกระทำของตนเอง ทำดี คิดดี ก็จะพบแต่สิ่งที่ดีๆ ส่วนการตั้งชื่อนั้นมีผลกับชีวิตเพียง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สำหรับความเห็นส่วนตัวแล้วในเรื่องของการทำให้ชีวิตดีขึ้นหรือเลวลง การตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อใหม่แทบจะไม่มีผลอะไรเลย ถ้าจะมีก็เพียงผลทางด้านจิตวิทยาต่อจิตใจในแง่ความรู้สึกให้มั่นใจมากขึ้นมากกว่า ส่วนความจำเป็นในการเปลี่ยนชื่อนั้นโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่มีผลต่อชีวิตอย่างไร แต่สำหรับคนอื่นแล้วถ้าเปลี่ยนแล้วสบายใจขึ้น มั่นใจขึ้น ก็สามารถทำได้ไม่เสียหายอะไร

สำหรับสาวสวยผู้ประกาศข่าวและพิธีกรจากสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่มีประสบการณ์ตรงจากการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาหมาดๆ เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ปราย ธนาอัมพุช หรือ โอ๋-นิธิพร มั่นนาค ในอดีต ปรายเล่าว่า ที่เปลี่ยนชื่อนั้นมาจากทำร้านดอกไม้แล้วไม่ค่อยดี จึงเปลี่ยนชื่อร้านดอกไม้ใหม่ ปรากฏว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน จึงเริ่มสนใจที่ “มันแปลกดีแฮะ” ประกอบกับเพื่อนแนะนำหมอดูซึ่งให้เหตุผลน่าสนใจก็เลยคิดว่าลองเปลี่ยนดู ซึ่งก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่พอสมควร เพราะว่าเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุลก็ต้องอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจ

ชื่อใหม่ของเธอนั้นแปลว่าโปรยปราย มีความหมายที่ดีเหมาะกับหน้าที่การงานและอักษรเป็นมงคลถูกกับโฉลก ตอนที่ไม่เปลี่ยนชื่อดูภายนอกเหมือนดี แต่มักจะทำอะไรติดขัดอยู่เสมอ ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว คือเกือบดีแต่ไม่ดีจริงๆ สักที แต่หลังจากเปลี่ยนชื่อแล้วแน่นอนผลทางจิตใจก็คือสบายใจขึ้น มั่นใจขึ้น รู้สึกมีความสุขขึ้น และสิ่งที่คนมักทักบ่อยๆ ก็คือดูสวยและสดใสขึ้น ส่วนในเรื่องงานนั้นยังไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน

โดยส่วนตัวของปรายแล้วคิดว่าการเปลี่ยนชื่อก็เป็นการแก้ไขสิ่งที่รู้สึกไม่ดีให้ดีขึ้น อะไรที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรคทำให้ชีวิตไม่ราบรื่นก็ให้สะดวกราบรื่นขึ้น “คนก็ถามเยอะ แต่ปรายก็บอกว่าอะไรที่ไม่ดีก็อยากแก้ไขเท่านั้นเอง อย่างน้อยเราควรได้ลองเพื่อพิสูจน์ดูก่อน ดีกว่าไม่พยายามทำอะไรเลย”

ศัลยกรรม...ความงามมาก่อนดวง

เรื่องการทำศัลยกรรมเพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องดวง เช่น เก็บปีกจมูกเพื่อให้เก็บทรัพย์อยู่ การปรับรูปปาก เปลี่ยนคาง ได้เริ่มมีมากขึ้นสำหรับคนไทย แต่ยังไม่ถึงกับแพร่หลายมากนัก แต่ว่าการศัลยกรรมเพื่อให้ดูดี สวย และหล่อขึ้น มักเป็นจุดประสงค์นำมากกว่า

พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ เจ้าของคลินิกผิวพรรณและความงามเอเพ็กซ์ ให้ความเห็นในเรื่องการศัลยกรรมหรือปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดูดีสวยงามขึ้นว่า เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสังคมปัจจุบัน เพราะเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่สวยกว่าดูดีกว่าย่อมมีโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าคนที่ไม่พร้อม ดังนั้นเป็นธรรมดาไม่ว่าใครก็ตามก็ต้องการทำให้ตัวเองดูดีขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะมีได้ ซึ่งในต่างประเทศ อย่างเช่น เกาหลี ผู้หญิงกว่าครึ่งในเมืองหลวงมักจะผ่านการทำศัลยกรรม หรือเสริมความงามกันมาแล้ว ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง

อีกอย่างรูปแบบของการทำให้ตนเองสวยขึ้น ดูดีขึ้นก็เปลี่ยนไป เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วการทำจมูกต้องผ่าตัด หน้าเหลี่ยมต้องเหลาคาง แต่ปัจจุบันการทำศัลยกรรมง่ายขึ้น เจ็บตัวน้อยลง ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ใช้เวลาน้อยลง เพราะเทคโนโลยีมีความทันสมัยขึ้น ถ้าอ้วนขาใหญ่ก็ฉีดคาร์บอกซี่เข้าไปอยู่ได้เกือบปีขาจะดูเรียวยาวขึ้น หน้าเหลี่ยมหรือกลมเกินไป ฉีดโบท็อกซ์เข้าไปหน้าจะดูเรียวยาวขึ้น แถมคางสองชั้นก็หายไปอีกด้วย ที่สำคัญราคาถูกลง หากไม่พอใจลองใช้ไปสัก 7-8 เดือนก็เหมือนเดิม อยากทำใหม่อีกก็ได้

“ต่างจากเมื่อก่อนเช่นทำจมูกต้องใส่ซิลิโคนเข้าไป ปัจจุบันนี้ใช้สารที่ไม่เป็นอันตรายฉีดเข้าไป ไม่พอใจก็แก้ไขง่ายไม่เหมือนกับทำซิลิโคน และตัวเลขอายุของผู้ที่มาเสริมความงามให้ตนเองก็ลดลงเรื่อยๆ จากเดิมที่เป็นคนทำงานวัย 30 กว่า ขณะนี้ผู้มาทำศัลยกรรมอายุอยู่ที่ 15-16 ปีก็มาแล้ว โดยผู้ปกครองพามาทำเองเพราะทนรบเร้าไม่ไหว ถ้าไม่พามาเองเกรงว่าเด็กๆ จะแอบไปทำเองโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วเป็นอันตราย”

สำหรับคนไทยการทำศัลยกรรมก็มีพอสมควร ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกแต่ในเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น คนชนบทห่างไกลออกไปการทำศัลยกรรมยังถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้นเคยนัก

คนบางคนนั้นเมื่อเรามองเข้าไปในฐานะคนนอก ชีวิตของเขาช่างน่าอิจฉา เพราะดูมีมากมายไปเสียทุกอย่าง แต่ใครจะรู้ว่าในความสุขที่ถูกคนอื่นมอง แท้จริงแล้วเขากำลังประสบอะไรอยู่บ้าง คนเราไม่ว่าจะฐานะร่ำรวย ยากจน มีความสมบูรณ์ทางด้านหน้าตาอย่างไร แต่ก็ต้องมีบ้างที่ต้องเผชิญกับภาวะความทุกข์ อุปสรรคขัดข้องบ้าง หากคนผู้นั้นได้ฝึกสติ ฝึกจิต อยู่กับปัจจุบันขณะเพื่อให้ผ่านไปให้ได้ น่าจะเป็นจุดที่สำคัญกว่า

เพราะในที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าการสร้างตัวเองด้วยตัวเอง ความสวยหากสวยมาจากข้างในก็เป็นที่ชื่นชมของผู้อื่นได้ รวยด้วยวุฒิ ปัญญา และความดี จากชื่อธรรมดาๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีคนกล่าวขานถึง


ไปข้างบน