หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook

สรรพากรนครฯ เล็งรีดภาษีเซียนพระ-กระแส "จตุคามรามเทพ"สะพัดพันล้าน


จตุคามรามเทพ วัตถุมงคลที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้

นครศรีธรรมราช - สรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราชโวปี 2549 จัดเก็บภาษีได้ 1,600 ล้านบาท ทะลุเป้าที่วางไว้นับร้อยล้านบาท ขณะที่ปี 2550 ดันยอดขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาท สุดมั่นใจว่าจะเดินไปได้เกินกว่าเพดานแน่นอน เผยเตรียมจัดระเบียบการจัดเก็บภาษีใหม่ เล็งรีดเซียนพระนักสร้าง "จตุคามรามเทพ" หลังเห็นเม็ดเงินสะพัดนับพันล้าน แต่ถูกนายทุนเมินจ่าย ด้วยการอาศัยชื่อวัดบังหน้าว่าทำการกุศล

นางศิริพร บุญเจริญ สรรพากรพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงเป้าหมายการจัดเก็บภาษีในปี 2550 ของจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า ได้มีการวางเป้าหมายไว้ที่ 1,800 ล้านบาท ซึ่งระยะนี้การจัดเก็บบางส่วนได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลเป็นไปตามคาดหวัง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบธุรกิจ การค้า การลงทุนในพื้นที่ที่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีอย่างใกล้ชิดและเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 สรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราชสามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,600 ล้านบาท ซึ่งถือว่าการจัดเก็บประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้มีรายได้ภาษีทะลุเป้าที่วางไว้จากที่คาดหมายนับร้อยล้านบาท

"แต่ในปี 2550 ต้องยอมรับว่าธุรกิจแต่ละชนิดเติบโตไม่เท่ากัน บางรายอยู่ในสภาพขาลง บางรายอยู่ในสภาพที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น และการจ่ายภาษีนั้นยังไม่ถูกต้องตามฐานภาษีที่ควรจะเป็น เจ้าหน้าที่จึงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสมดุลในการชำระที่ถูกต้อง และในที่สุดแล้วจากการประเมินเชื่อว่า เมื่อเสร็จสิ้นการจัดเก็บรายได้ภาษีจะสามารถทำยอดได้สูงกว่า 1,800 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน เพราะฐานภาษีของผู้ประกอบการบางรายนั้นยังไม่ถูกต้อง จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลบางตัวตกต่ำ บางตัวดูดี เจ้าหน้าที่จะเข้าไปติดตาม"

สรรพากรพื้นที่นครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจแต่ละชนิด จะไม่มีการเพ่งเล็งอย่างไหนเป็นพิเศษ คงดำเนินการไปตามปกติ แต่บางอย่างที่นอกเหนือจากการทำธุรกิจปกติคือ รายได้จากการจัดทำพระเครื่องที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเช่าบูชา ซึ่งกำลังเป็นที่แพร่หลายในขณะนี้ และมีผู้จัดทำหลายกลุ่มมาก โดยเฉพาะพระเครื่องประเภท "จตุคามรามเทพ" ที่กำลังโด่งดังในวงการพระเครื่องในพื้นที่ขณะนี้

"เราพบว่าเม็ดเงินที่สะพัดอยู่ในวงการพระเครื่องของนครศรีธรรมราช นับพันล้านบาททีเดียว ซึ่งในการเรียกเก็บภาษีกำลังมองอยู่ว่าจะต้องเสียภาษีเช่นกัน และจะต้องมีหลักฐาน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนฐานภาษี และหารือกับหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนกระทบหลายฝ่าย มีชื่อวัดเข้ามาเกี่ยวข้อง การดำเนินการจะง่ายมากขึ้นถ้ามีการให้ข้อมูล และในเรื่องนี้จะต้องเร่งการจัดระบบภาษีให้ชัดเจน" นางศิริพรกล่าว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเป้า (ขอสงวนนามสกุล) เซียนพระเครื่องใน จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะนายหน้าการจัดสร้างพระเครื่องรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้พระเครื่องประเภทจตุคามรามเทพ กำลังเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนโดยทั่วไป นับว่าโด่งดังมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากความเชื่อถือและศรัทธาด้วยใจจริง แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสที่คนกำลังเห่อหรือฮิตกัน

นายเป้ากล่าวว่า ขณะนี้เป็นกระแสไปแล้วว่า หากใครมีพระเครื่องจตุคามรามเทพติดตัวก็จะต้องมีด้วย และมีการบอกต่อๆ กันโดยไม่รู้เรื่องเลยว่า แท้จริงองค์จตุคามฯคือใคร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร จึงเป็นช่องทางในการทำธุรกิจหารายได้ เพราะความต้องการพระเครื่ององค์พ่อจตุคามฯมีสูงมาก การจัดทำในแต่ละรุ่นจึงมีรายได้มหาศาล

"ด้วยช่องทางนี้จึงมีการจัดหารายได้กันใหญ่โต โดยการจัดสร้างองค์จตุคามฯให้เช่าบูชาหลายลักษณะ บ้างก็สร้างด้วยเจตนาดี นำเงินรายได้เพื่อการกุศลอย่างแท้จริง บ้างก็เพื่อต้องการทำเงิน โดยมีรายได้ส่วนหนึ่งไปทำกุศลเล็กๆ น้อยๆ กันครหานินทาเท่านั้น แต่รายได้ส่วนใหญ่กลับอยู่ที่นายทุนจัดสร้าง และนายทุนเหล่านี้ได้อาศัยวัดในการจัดสร้าง โดยมีข้อตกลงกับวัดว่า ต้องการรายได้แค่ไหน ส่วนต่างคือผลกำไร โดยที่นายทุนจะเป็นผู้ลงทุนจัดสร้างทั้งหมดทุกขั้นตอน รวมทั้งเป็นแม่งานในการดำเนินการทำพิธีในแต่ละช่วงเป็นเงินลงทุนค่อนข้างสูง"

นายเป้ายังกล่าวต่อว่า รายได้ที่เกิดขึ้น ถือว่ามหาศาล คนภายนอกวงการอาจจะไม่รู้ บางรุ่นมีรายได้สูงนับร้อยล้านบาททีเดียว บางรุ่นแค่ 40-50 ล้าน หากมีการจัดเก็บภาษี ตนเห็นด้วย แต่ควรจะดำเนินการกับนายทุนจุดที่รายได้ไปกองอยู่ที่ตัวบุคคล ซึ่งไม่ใช่วัดที่นำเงินไปสร้างเสนาสนะ สิ่งสาธารณประโยชน์ หรือการกุศลอื่นๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสของความศรัทธาในองค์พ่อจตุคามรามเทพ หรือ "ท้าวจตุคาม" และ "ท้าวรามเทพ" ซึ่งมีตำนานแห่งความศรัทธาและความเชื่อถือว่าเทพทั้งสององค์คือเทพผู้พิทักษ์องค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช และเมือง 12 นักษัตรอาณาจักรศรีวิชัยเมื่อครั้งโบราณ โดยมีรูปหล่อประดิษฐานอยู่ที่บันไดทางขึ้นลานรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ และมีความศรัทธาความเชื่อของผู้เคารพนับถือว่า "ขอให้ ไหว้รับ" เมื่อหวังสิ่งใดในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมแล้วไปบนบานจะสมหวังเสมอ ทำให้มีการจัดสร้างองค์จตุคามรามเทพในรูปแบบต่างๆ จำนวนมากนับสิบรุ่นแล้ว เป็นที่มาของรายได้มหาศาลดังกล่าว


ไปข้างบน