หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook

ถ้ำผาหลงเหมิน ที่ลั่วหยัง (ถ้ำหินสลักประตูมังกร)


ถ้ำผาหลงเหมิน เปรียบเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ ที่หลงเหลือจากอดีตระหว่างรอยต่อยุคราชวงศ์เหนือสู่ราชวงศ์ถังอันรุ่งเรือง เป็นหนึ่งในถ้ำผาที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาพุทธ ทั้งนี้ได้แสดงออกซึ่งผลงานศิลปะที่ให้แง่คิดในด้านลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาพุทธ ซึ่งนับเป็นแหล่งรวมงานศิลปะการแกะสลักหินชั้นสูงอีกแห่งหนึ่งของชาติ


ทัศนียภาพส่วนหนึ่งของถ้ำผาหลงเหมินริมแม่น้ำอีเหอ

ลักษณะโดยทั่วไปของถ้ำผาหลงเหมิน ตั้งอยู่ระหว่างชะโงกผาอันสูงชันของหุบเขาหลงเหมินด้านตะวันตกและตะวันออก ซึ่งห่างจากตัวเมืองลั่วหยังไปทางใต้ 12.5 กิโลเมตร

เนื่องจากหน้าผาทั้งด้านทิศตะวันตกและออกประจันหน้าเข้าหากัน เกิดเป็นทางน้ำไหลผ่ากลาง ภูเขาและแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์(แม่น้ำอีเหอ) การเดินทางไปมาสะดวก สภาพอากาศเหมาะสม นับแต่อดีตกาลมาจึงเป็นสถานที่ดึงดูดเหล่าปัญญาชนศิลปินให้มาเยือนไม่ขาดสาย นอกจากนี้ หินผาที่นี่ยังมีคุณภาพดีเหมาะกับงานแกะสลัก คนโบราณจึงเลือกถ้ำผาหลงเหมินเป็นสถานที่บุกเบิกงานแกะสลักถ้ำหิน


ภายในถ้ำวั่นฝอ มุมหนึ่งของถ้ำผาหลงเหมิน ที่เมืองลั่วหยาง

ดังที่ทราบกันว่า ถ้ำผาหลงเหมินเป็นขุมทรัพย์ทางศิลปะของงานแกะสลักถ้ำหินอันโด่งดัง เทียบเคียงกับถ้ำผาม่อเกาคู ที่ตุนหวงในมณฑลกันซู่ และถ้ำผาหยุนกัง ที่ต้าถงในมณฑลซันซี ซึ่งล้วนสร้างขึ้นในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ระหว่างยุคราชวงศ์เหนือเชื่อมต่อกับราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศาสนาพุทธในจีนมีวิวัฒนาการและเจริญขึ้นถึงขีดสุด

กำเนิดของถ้ำผาหลงเหมินแตกต่างจากถ้ำผาหยุนกังตรงที่ เกิดขึ้นจากพระราชดำริของจักรพรรดิ และยังได้รับการทะนุบำรุงจากจักรพรรดิทั้งในสมัยราชวงศ์เหนือเรื่อยมาจนถึงสมัยราชวงศ์ถัง โดยเฉพาะการบูรณปฏิสังขรณ์ และสร้างขึ้นใหม่ในสมัยราชวงศ์ถังระหว่างรัชสมัยของฮ่องเต้ถังไท่จง หลี่ซื่อหมิน และในสมัยพระนางอู่เจ๋อเทียน (บูเช็คเทียน) ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องแปลกเลย ที่ถ้ำผาแห่งนี้จะใช้แรงงานคนในการก่อสร้างและบูรณะมากมาย กอปรกับได้รับการสนับสนุนเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือในการก่อสร้างอย่างเต็มที่

และดังที่เห็นในปัจจุบัน ถ้ำผาหลงเหมินจึงมีงานเจาะสกัดหินชิ้นใหญ่มหึมาหลายชิ้น และยังเป็นแหล่งรวมงานศิลปะชั้นหัวกะทิในยุคนั้นด้วย


รูปสลักงดงามเช่นนี้ ทำให้ถ้ำผาหลงเหมินได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสามของศิลปะถ้ำอันเลื่องชื่อของจีน

ถ้ำผาหลงเหมิน มีอายุใกล้เคียงกับถ้ำผาหยุนกังที่ต้าถง ราว 1,500 ปี เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยฮ่องเต้เสี้ยวเหวินตี้ (ค.ศ.471-477) ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง บูรณะ และต่อเติมยาวนานถึง 400 กว่าปี มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันยังคงหลงเหลือถ้ำผาแกะสลักอยู่จำนวน 1,300 กว่าคูหา โพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆอีก 3,600 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 50 กว่าแห่ง พระพุทธรูปสลัก 97,000 กว่าองค์

และในจำนวนโบราณวัตถุสถานเหล่านี้ มีถ้ำปิงหยัง วัดถ้ำเฟิ่งเซียน และถ้ำกู่หยัง ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่โบราณขึ้นชื่อของถ้ำผาหลงเหมิน

เมื่อกล่าวถึงถ้ำปิงหยัง ซึ่งเป็นตัวแทนของผลงานศิลปะในยุคราชวงศ์เหนือ หรือ เป่ยวุ่ย(เว่ย) ค.ศ.386-512 ใช้เวลาในการเจาะสกัดหินสร้างสรรค์ขึ้นเป็นภาพที่เห็นในปัจจุบันรวม 24 ปี

ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป 11 องค์ โดยมีรูปสลักองค์พระศากยมุนีงดงามพิสุทธิ์เป็นพระประธาน สีพระพักตร์และอิริยาบถเปล่งประกายโดดเด่นท่ามกลางหมู่งานหินสลักทั้งมวล นับเป็นสุดยอดพุทธศิลป์ยุคกลางแห่งราชวงศ์เหนือ


ภายในถ้ำปิงหยัง ขวามือเป็นรูปสลักนูนบนผนังถ้ำที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีสิงโตหินสลักคู่ พระสาวก และพระโพธิสัตว์ ประดับอยู่เป็นคู่ด้านหน้าพระประธาน รูปสลักพระโพธิสัตว์พระพักตร์เปี่ยมด้วยความเมตตาอารี เส้นสายอ่อนหวานนุ่มนวล ที่ผนังถ้ำยังตกแต่งไปด้วยรูปสลักนูนพระสาวก และพระโพธิสัตว์อีกจำนวนมาก ล้วนมีชีวิตชีวาเหมือนจริง ที่เพดานก็แกะสลักเป็นรูปเซียนและเทพธิดา


ภาพสลักนูนบนผนังถ้ำชุด 'พิธีกรรมทางพุทธศาสนา' ในถ้ำปิงหยัง

และสิ่งที่ข้ามไปไม่ได้ คือ ภาพสลักนูนบนผนังถ้ำปิงหยัง ซึ่งเป็นรูปจักรพรรดิเสี้ยวเหวินตี้และไทเฮาขณะทรงประกอบพิธีทางศาสนา เป็นภาพสลักนูนที่งดงามมีชื่อของถ้ำแห่งนี้ ทั้งชุดประกอบด้วยภาพสลักนูนขนาดใหญ่ 2 ชิ้น วางตามแนวนอนบนผนังถ้ำ

เนื้อหาภาพเป็นฉากการเสด็จประกอบพิธีกงเต็กแด่พระชนกและพระชนนีของพระองค์ ซึ่งภาพสลักนูนของถ้ำผาหยุนกังชุดนี้ ส่วนหนึ่งถูกลักลอบไปขายนอกประเทศในปี 1933 และปี 1934 ที่เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะในนครนิวยอร์ค เป็นภาพจักรพรรดิเสี้ยวเหวินตี้แห่งราชวงศ์เหนือทรงประกอบพิธีทางศาสนา และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นภาพพระมเหสีเหวินเจาทรงประกอบพิธีทางศาสนา เก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแคนซัส ซีตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลจีนมีการเคลื่อนไหวสืบนำโบราณวัตถุจากถ้ำผาหยุนกังกลับคืนมาตุภูมิแล้วบางส่วน


วัดเฟิ่งเซียน โบราณสถานที่ใหญ่ที่สุดบริเวณถ้ำผาหลงเหมิน

ในกลุ่มโบราณวัตถุนี้มีพระพุทธรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผลงานชิ้นเอกเลิศล้ำที่สุด ความสูง 17.14 เมตร พระเศียรสูง 4 เมตร พระกรรณยาว 1.9 เมตร พระพักตร์อิ่มเอิบสมบูรณ์ พระวรกายอวบอัดคลาสสิก แววพระเนตรแห่งอัจฉริยภาพแฝงด้วยความเมตตาการุณย์หลบลงต่ำ มองสู่เบื้องล่างได้ระยะพองาม ประสานพอดีกับสายตาของผู้มาสักการบูชาที่มองเงยขึ้นเบื้องบนสู่องค์พระ ก่อเกิดพลังศรัทธาขึ้นในกุศลจิตของผู้นั้น นับเป็นเสน่ห์ของศิลปะสมัยราชวงศ์ถังที่หาชมได้ยากเกินพรรณนา

และสำหรับถ้ำกู่หยัง ซึ่งเป็นถ้ำที่สร้างขึ้นแรกสุด ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย ตามผนังถ้ำทางทิศเหนือและใต้มีโพรงแท่นบูชาพระพุทธรูป 3 ชั้น พระพุทธรูปภายในโพรงเหล่านี้บ้างสลักเป็นรูปพระศากยมุนี บ้างเป็นรูปพระศรีอาริย์ฯในอิริยาบถต่างๆกัน

ยังมีการแกะสลักอักษรจีนบอกชื่อหัวข้อ นามช่างแกะ เดือนปีและเหตุที่มาในการสร้างงาน ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่องานค้นคว้าด้านอักษรศิลป์ (ลายมือพู่กันจีน) และงานแกะสลักหินในสมัยราชวงศ์เหนือที่ทรงคุณค่ายิ่ง


รูปสลักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ถ้ำวัดเฟิ่งเซียน

ทั้งนี้หินสลักอักษรจีนเหล่านี้ถูกเรียกรวมกันว่า ‘หินสลักอักษรศิลป์หลงเหมิน 20 ชิ้น’ ซึ่งเป็นโบราณวัตถุสมัยราชวงศ์เหนืออันล้ำค่าของถ้ำผาหลงเหมิน โดยหินสลักจำนวน 19 ชิ้นเก็บรักษาอยู่ในถ้ำกู่หยัง อีกชิ้นหนึ่งอยู่ในถ้ำผาฉือเซียง

ชิ้นงานทั้งหมดนี้ได้บันทึกลายมือพู่กันจีนตัวอักษรในสมัยนั้น ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม เรียบง่าย มีลีลาคล้ายอักษรลี่ซู เนื่องจากพัฒนามาจากพื้นฐานตัวอักษรลี่ซูจากสมัยฮั่นและจิ้น ขณะเดียวกัน ก็มีลักษณะเป็นแบบแผนเช่นเดียวกับอักษรตัวบรรจงข่ายซู ตัวอักษรบนหินสลักเหล่านี้กลายมาเป็นตัวแทนของ ‘อักษรศิลาวุ่ย’ (เว่ยเปย) ซึ่งมีบทบาทต่อประวัติศาสตร์และการศึกษาเรื่องวิวัฒนาการของตัวอักษรจีนอย่างยิ่ง


'อักษรศิลาวุ่ย(เว่ย)' บนศิลาจารึกที่ถ้ำผาหลงเหมิน ขวามือเป็นภาพพิมพ์จากของจริงส่วนที่แรเงา

ในแง่คุณค่าทางศิลปะแล้ว ถ้ำผาหลงเหมินแฝงไว้ด้วยงานศิลปะที่ผสมผสานขึ้นจากศิลปวัฒนธรรมจากหลายฝั่งหลายฝ่าย โดยรับอิทธิพลจากศิลปะจากแดนไกลอย่างศิลปะอินเดีย และยังรับอิทธิพลจากรูปแบบเฉพาะตัวของ ‘ศิลปะถ้ำหยุนกัง’ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดศิลปะถ้ำของจีนขนานแท้ รวมไปถึงวัฒนธรรมที่ตกทอดมาจากราชวงศ์ฮั่นในยุคก่อนด้วย

ถ้ำผาหลงเหมินไม่เพียงเป็นภาพสะท้อนการเปลี่ยนแปลงจากรุ่งเรืองแล้วเสื่อมโทรม แห่งพุทธศาสนาในจีน นับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 10 เท่านั้น ยังสะท้อนให้เห็นถึง เสี้ยวหนึ่งของการเจริญเติบโตทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของจีนในยุคสมัยนั้นด้วย


รูปสลักยักษ์บนผนังถ้ำวัดเฟิ่งเซียนด้านทิศเหนือ

ถ้ำผาแห่งศรัทธานี้ได้ผ่านกาลเวลามาหลายชั่วอายุคน ตลอดเวลาพันกว่าปีที่อวดโฉมเย้ายวนอยู่เหนือสายน้ำท่ามกลางช่องเขาใหญ่ ย่อมไม่อาจต้านทานการถูกทำลายลง ทั้งโดยธรรมชาติและจากน้ำมือมนุษย์ใจทมิฬ

โบราณวัตถุที่ยังคงเหลืออยู่ในสภาพสมบูรณ์จริงๆมีไม่มากแล้ว ภายหลังบอบช้ำจากขบวนการลักลอบโบราณวัตถุไปขายช่วงก่อนและหลังทศวรรษที่ 30 แห่งศตวรรษที่แล้ว รัฐบาลจีนได้ตื่นตัว จัดการวางมาตรการป้องกันความปลอดภัย ตลอดจนใช้ความพยายามอย่างมาก ในการนำเทคโนโลยีชั้นสูงมาช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพโบราณวัตถุที่ยังหลงเหลืออยู่ ด้วยความหวังที่จะเห็นถ้ำผาหลงเหมิน ดำรงคุณค่าความเป็นมรดกของชาติและสากลอย่างสง่างามต่อไป


สลด

ข้อมูล
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี ค.ศ.2000

ที่ตั้ง – ชานเมืองลั่วหยัง ห่างไปทางใต้ 12.5 กิโลเมตร ในมณฑลเหอหนัน

สร้างเมื่อ – ยุคราชวงศ์เหนือ รัชสมัยจักรพรรดิเสี้ยวเหวินตี้ (ค.ศ.471-477)

อาณาเขต – ความยาวจากเหนือจรดใต้ 1 กิโลเมตร

ข้อมูลท่องเที่ยว
ถ้ำผาหลงเหมินอยู่ห่างไปทางใต้ของเมืองลั่วหยัง 13 กม. เดินทางเข้าสู่เมืองลั่วหยังสามารถโดยสารรถไฟหรือเครื่องบินภายในประเทศ จากนั้น โดยสารรถประจำทางหมายเลข 81,53,60 จากตัวเมือง สามารถเดินทางถึงบริเวณเขตท่องเที่ยวถ้ำผาหลงเหมิน

ราคาบัตร 80 หยวน สามารถเข้าชมถ้าผาหลงเหมิน สวนไป๋ (白园) ที่ตั้งสุสานไปจีว์อี้ (白居易墓) และวัดเซียงซัน (香山寺) ถ้ำผาหลงเหมินเปิดเวลา 7:30-18:30 น.(เวลาปรกติ) 7:30-17:30 (ฤดูหนาว)

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
วัดไป๋หม่า (วัดม้าขาว 白马寺) ราคาบัตร 35 หยวน เปิดเวลา 7 : 30 - 17 : 30 น. วัดเส้าหลิน (少林寺 ห่างจากเมืองลั่วหยัง 80 กม.) ราคาบัตร 40 หยวน (เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางสายวัดเส้าหลิน ใช้เวลา 2 ชม. ราคาตี๋วราว 20 หยวน ขึ้นรถที่หน้าสถานีรถไฟเมืองลั่วหยัง) เมืองไคเฟิง (ห่างจากเมืองลั่วหยัง 201 กม.)


ไปข้างบน